**ในหลวงและพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) กระชับความสัมพันธ์สองประเทศ**

วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) เวลา 16.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานร่วมกับ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนางนาลี สีสุลิด ภริยา ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ณ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ


สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) หรือ 5th Thai–Lao Friendship Bridge เป็นโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่มีความสำคัญยิ่งต่อการเชื่อมโยงมิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเริ่มต้นแนวคิดโครงการตั้งแต่ปี 2554 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมทางหลวงดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในปี 2555 และในปี 2562 ได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมลงนามความตกลงว่าด้วยการก่อสร้างระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยกับรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของลาว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ก่อนเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการทั้งสองฝั่งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564


แนวเส้นทางโครงการมีระยะทางรวม 16.18 กิโลเมตร แบ่งเป็นฝั่งประเทศไทย 12.13 กิโลเมตร และฝั่ง สปป.ลาว 3.18 กิโลเมตร โดยจุดเริ่มต้นฝั่งไทยอยู่ที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 222 บริเวณกิโลเมตรที่ 123+430 มุ่งหน้าผ่านพื้นที่เกษตรกรรม เชื่อมโยงโครงข่ายถนนสำคัญ ก่อนเข้าสู่ตัวสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่มีความยาว 1.35 กิโลเมตร ขนาด 2 ช่องจราจร และเชื่อมต่อไปยังทางหลวงหมายเลข 13 บริเวณบ้านกล้วย เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สอดคล้องกับแผนพัฒนาถนนเลี่ยงเมืองปากซันด้านตะวันออกของ สปป.ลาว


โครงการดังกล่าวใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้น 3,640 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างถนน ตัวสะพาน อาคารด่านพรมแดน และค่าเวนคืนที่ดิน โดยฝั่งประเทศไทยใช้งบประมาณแผ่นดิน ขณะที่ฝั่ง สปป.ลาว ใช้เงินกู้ในการดำเนินงาน ทั้งนี้ การก่อสร้างตัวสะพานแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันนี้


การเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ในครั้งนี้ นับเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและความร่วมมืออันยั่งยืนระหว่างสองประเทศ ตลอดจนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การคมนาคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงให้เจริญก้าวหน้าร่วมกันอย่างมั่นคงสืบไป 🇹🇭🇱🇦

ภาพข่าว Army Military Force

ใหม่กว่า เก่ากว่า